ญี่ปุ่นเที่ยวเองง่ายมาก! ขึ้นรถไฟ JRชมซากุระ สัมผัสหิมะ ตะลุย2 เมืองแห่งโทโฮคุ (Morioka , Akita)

กระทู้ข่าว
สวัสดีค่ะ เราขอแนะนำการเดินทางจากโตเกียว (Tokyo) สู่อากิตะ (Akita) ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอย่างมากในการชมดอกซากุระ ดอกไม้เปลี่ยนสี นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และยังเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงเรื่องอาหารพื้นเมืองอีกด้วย เราใช้เวลาการเดินทาง 5 วัน 4 คืนโดยทริปนี้เราจะใช้สายรถไฟ JR ในการเดินทางค่ะ และพักโรงแรมที่ใกล้กับสถานี JR ทริปนี้เราเน้นนำเสนอแนวทางการเดินทางที่สะดวกสบายอีกเส้นทางหนึ่งให้กับเพื่อนๆ ได้เลือกชมกันค่ะ

Day 1

เราออกเดินทางจากโตเกียวโดยสารรถไฟ Tohoku Shinkansen ไปยังสถานี Kitakami จากนั้นเดินอีกประมาณ 20 นาทีหรือต่อบัส Iwate มุ่งหน้าไปยัง Esashi Bus Center ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีลงป้าย Tenshoji จะถึงทันที สวน KitakamiTenshochi ซึ่งอยู่ในจังหวัดอิวาเตะเป็นสถานที่ชมดอกซากุระบานของเขต Tohoku ที่สวย Kitakami แห่งนี้มีต้นซากุระมากกว่า 10,000 ต้นเป็นสถานที่ที่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ในสถานที่ชมซากุระที่งดงามที่สุดจาก 100 แห่งในญี่ปุ่นอีกด้วย


และในการเดินทางครั้งนี้เราเลือกพักโรงแรม Hotel Metropolitan ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีหลายสาขาทั่วญี่ปุ่น และในค่ำคืนแรกของการเดินทางนี้เราได้เข้าพักที่ Hotel Metropolitan Morioka โดยการเดินทางไปยังโรงแรมก็แสนง่ายและสะดวกมาก ด้วยการขึ้นรถไฟไปลงสถานนีโมริโอกะ (Morioka Station) และเดินเพียง 3 นาทีก็จะถึง Hotel Metropolitan Morioka New Wing แล้ว

โรงแรมมีความหรูหรามากๆ ความกว้างขวางของล็อบบี้นั้นสามารถใช้เป็นที่นัดพบกันหรือเป็น Tea Lounge ได้อย่างดี อีกทั้งมีการให้บริการ Wifi ฟรีอีกด้วย

และอาหารมื้อเย็นของเราในวันนี้คืออาหารญี่ปุ่น Taiitsuru (ชั้น 1 ของโรงแรม) ซึ่งเป็นอาหารที่เสิร์ฟภายในปราสาทโมริโอกะและเป็นอาหารพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดอิวาเตะอีกด้วย

วันนี้เราขอแนะนำโรงแรม Hotel Metropolitan Morioka เพิ่มเติมสักนิดนะคะ

ห้องพักของที่นี่ก็มีทั้ง Standard twin มีความกว้าง 30 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดแบบ Top Class ของโมริโอกะสามารถเก็บกระเป๋าเดินทางหรือของใช้ได้อย่างสะดวกสบายที่สำคัญทุกห้องมีบริการ Wifi ฟรีค่ะ!!!

บอกเลยเป็นโรงแรมที่สบายมากกกกกกกก


Day 2

เช้าวันที่ 2 แล้ว อาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญ เช้านี้ต้อนรับวันใหม่ด้วยอาหารเช้าแสนอร่อยที่ทาง Hotel Metropolitan Morioka ที่เตรียมบุฟเฟ่ต์จำนวนมากที่ใช้วัตถุดิบจากโมริโอกะซึ่งเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่นโดยเฉพาะอาหารจากจังหวัดอิวาตะที่เราอยากจะแนะนำคือ "Yogurt" "Honey" "Omelet" ที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวอย่างมาก

หลังจากท้องอิ่มแล้วเราก็ออกเดินทางกันทันทีสถานที่แรกของวันนี้คือ Hachimantai หรือที่เรียกกันว่าทางเดินหิมะนั้นเอง โดยเดินทางจากสถานีโมริโอกะขึ้นรถบัสประมาณ 2 ชั่วโมงก็จะถึง Hachimantai ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่มีชื่อเสียงอย่างมากของโทโฮคุ หากมาให้ช่วงหน้าหนาวนั้นถนนเส้นนี้ตลอด 2 ข้างทางจะปกคลุมไปด้วยหิมะที่แสนงดงาม


นอกจากนี้หากใครที่มีโอกาสมาที่โมริโอกะในช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้วล่ะก็ เมืองโมริโอกะที่จากงดงามด้วยหิมะก็จะเปลี่ยนความงามไปในแบบที่แตกต่างด้วยดอกซากุระที่เบ่งสะพรั่งของต้นซากุระสายพันธุ์อิชิวาริซากุระ (Ishiwarizakura) อีกด้วย

ในคืนที่ 2 ของการเดินทางนี้เราก็ยังคงพักที่โรงแรม Hotel Metropolitan Morioka อีกเช่นเคย ซึ่งมื้อค่ำนี้เราได้ใช้บริการของโรงแรมซึ่งบอกเลยว่าเป็นมื้ออาหารที่หรูหรามากๆ อาหารเย็นของเราคือ Wankozen หรืออาหารตามฤดูกาลของอิวาตะ ซึ่งเป็นอาหารพิเศษของทางโรงแรมโดยเฉพาะ “Wanko Soba” มีความพิเศษตรงที่มีอาหารทั้งหมด 15 อย่างและเสิร์ฟมาในชาม เป็นเมนูที่เพียงเห็นก็พึงพอใจยิ่งได้ชิมจะยิ่งชื่นชอบ


Day 3

กองทัพต้องเดินด้วยท้องหาอะไรทานก่อนจะออกไปผจญภัยในวันที่ 3 มาอาคิตะทั้งที่ต้องทานอาหารพื้นเมืองของจังหวัดอาคิตะนั้นก็คือ kiritanponabe ข้าวสุกที่นำมาบดแล้วเอาไปย่างจากนั้นนำมาตัดใส่ลงไปในหม้อนาเบะ ในหม้อประกอบไปด้วยผักต่างๆ และเนื้อไก่ฮิไน (Hinai-dori) เป็นไก่ที่ถูกเลี้ยงในที่กว้างถูกปล่อยให้วิ่งอย่างลั้นล้าอิสระ ทำให้ไก่มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงพอทำมาปรุงอาหารอร่อยอย่าบอกใครเชียว

ทานเสร็จเราก็เริ่มออกเดินทางไปที่พิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะ (Namahage) เมือง Oga เป็นที่แรกโดยเดินทางจากสถานี Morioka ไปสถานี Akita ต่อรถไฟ JR Oga line ลงสถานี Hadashi และต่อรถแท็กซี่อีก 20 นาทีก็จะถึงพิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะแล้ว นามาฮาเกะมีลักษณะหน้าตาคล้ายกับยักษ์สวมชุดที่ทำจากฟางข้าว ชาวบ้านในเมืองโอกะจังหวัดอคิตะแห่งนี่มีความเชื่อกันว่านามาฮาเกะเป็นเทพเจ้าที่อาศัยอยู่บนภูเขาโดยจะลงมาเยี่ยมเยือนตามหมู่บ้านทุกวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี เพื่อมาตามหาเด็กที่นิสัยไม่ดีหรือคนที่ขี้เกียจทำงานก็จะถูกพาตัวไปอยู่บนภูเขาพร้อมทั้งเป็นการเยี่ยมเยือนเพื่อให้พรและขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป เนื่องในวันปีใหม่ที่พิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะ (Namahage) มีการจัดแสดงนามาฮาเกะจากหลายหลายพื้นที่มารวมกันมากกว่าหนึ่งร้อยตัว ซึ่งหน้าตาแต่ละตัวจะแตกต่างกันออกไปโดยนามาฮาเกะในเมืองโอกะจะมีลักษณะพิเศษกว่าที่อื่นคือไม่มีเขาเนื่องจากชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเทพพระเจ้า

หลังจากเดินชมภายในพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้ว เราก็จะแวะไปชมบรรยากาศของคาบสมุทรโอกะซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกดินแสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบกับพื้นผิวน้ำสะท้อนแสงประกายระยิบระยับทั่วทั้งคาบสมุทร

ก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าเราก็เดินทางมาถึงที่ Nyudozaki เป็นจุดชมวิวที่มีพื้นที่โล่งและมีหอคอยตั้งเด่นสง่าอยู่ติดกับทะเลสามารถมองออกไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา พระอาทิตย์ที่ค่อยๆ ลับขอบฟ้าคล้ายกับว่ากำลังจะหายไปกับท้องทะเลเป็นทัศนียภาพที่สวยจนลืมกระพริบตาไปชั่วขณะ


ในคืนที่ 3 นี้เราเข้าพักที่ Hotel Metropolitan Akita โดยออกจากประตูกลางของสถานีอากิตะ (Akita station) ไปทางด้านตะวันตกเดินประมาณ 1 นาทีตัวอาคารอยู่ติดกับสถานีแล้วข้อดีของโรงแรมนี้คือเชื่อมโดยตรงกับสถานีอาคิตะซึ่งสะดวกสบายมากๆ ในการเดินทางสามารถสนุกสนานกับการซื้อของเนื่องจากมี shopping mall ของสถานี “ร้าน Matsumotokiyoshi” ซึ่งเป็นร้านปลอดภาษีอีกด้วย

ห้องพักที่ถูกออกแบบอย่างเรียบง่ายพร้อมกับเตียงซิมมอนส์ (Simmons) ในห้องพักทุกห้องที่จะทำให้คุณสามารถพักผ่อนและรู้สึกผ่อนคลายได้ซึ่งขอบอกเลยว่ามันสบายมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก


Day 4

วันสุดท้ายของทริปทัวร์เมืองอคิตะเราออกเดินทางจากสถานี Akita เดินทางด้วยรถไฟไปสถานี Kakunodate เที่ยวชมเมืองคาคุโนดาเทะ (Kakunodate) ซึ่งเป็นมืองเล็กๆ และยังไม่ค่อยรู้จักมากนัก แต่เป็นเมืองเก่าที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของเหล่าซามูไร ในปัจจุบันก็ยังคงมีประเพณีและกลิ่นของความเป็นซามูไรหลงเหลืออยู่ ที่คาคุโนดาเทะไม่ว่าจะเป็นหน้าหนาวหรือช่วงซากุระบานช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยงามไม่แพ้กัน

ต่อรถไฟไปที่สถานี Tazawako และขึ้นรถบัสที่ป้ายรถบัสเบอร์ 1 โดยป้ายรถบัสจะอยู่ที่หน้าสถานี Nyutoonsen คือชื่อของแหล่งบ่อน้ำพุร้อน (ออนเซน) ซึ่งประกอบไปด้วยเรียวกัง 8 แห่งในจังหวัด Akita บ่อออนเซนใน Nyutoonsen นี้จะเป็นบ่อออนเซนแบบโบราณซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและป่าเขาที่สวยงามมีประวัติยาวนานมามากกว่า 300 ปี

อ๊ะ! ลืมบอกไปว่าจังหวัดอาคิตะเนี้ยคือบ้านเกิดของเจ้าหมาหน้าตาทะเล้นแสนน่ารักสุนัขสายพันธ์อาคิตะ (Akita inu) ถ้าใครมาเที่ยวที่จังหวัดอาคิตะก็จะได้เจอกับเจ้าสุนัขพันธ์อาคิตะด้วยนะมีเลี้ยงกันหลายบ้านมากๆ เลย

วันนี้เราก็ยังคงเข้าพักที่Hotel Metropolitan Akitaค่ะ


Day 5 Akita ⇒Tokyo

จากสถานี Akita เดินกลับโตเกียว โดยสารรถไฟ Tohoku Shinkansen Komachi ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง

สิ่งที่ประทับใจมากๆของทริปนี้ คือ การได้ชมซากุระที่แสนสวยงามและได้ทานอาหารพื้นเมืองที่แสนอร่อยมากมายค่ะ
ส่วนเรื่องโรงแรม ในครั้งนี้เราเลือกพักที่ Hotel Metropolitan ที่โมริโอกะ และ อากิตะ หากใครสนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในลิ้งด้านล่างนี้และยังสามารถจองห้องพักผ่านเว็ปไซต์ได้อีกด้วยค่ะ
ซึ่งถ้าเกิดโชว์รีวิวนี้แล้ว ทางโรงแรมจะมีของรางวัลให้ทุกคนด้วย ตั้งแต่วันนี้ จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 25560


สำหรับการเดินทางใน 2 เมืองนี้ สิ่งพิเศษของทั้ง 2 เมืองคือ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากหากมาในฤดูใบไม้ผลิ ก็จะได้พอกับดอกซากุระที่เบ่งบานอย่างงดงาม หรือในช่วงฤดูใบไม่ร่วงก็สามารถเพลิดเพลินกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ และหากมาในฤดูหนาวก็ยังได้พบกับเมืองที่ปกคลุมด้วยหิมะที่แสนสดงามได้อีกด้วย

ส่วนเรื่องโรงแรมในครั้งนี้เราเลือกพักที่ Hotel Metropolitan ที่โมริโอกะและอากิตะ หากใครสนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในลิ้งด้านล่างนี้ และยังสามารถจองห้องพักผ่านเว็ปไซต์ได้อีกด้วยค่ะ
Hotel Metropolitan Morioka  Hotel Metropolitan Akita


[Advertorial]
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่