[BR] รีวิว HUAWEI Vision S Beyond TV หน้าจอลื่น 120Hz หน้าตาดี ถ่ายรูปได้ โทรก็ได้ด้วย!

กระทู้ผู้สนับสนุน
สวีดัด สวัสดีทุกคนนนนนนนน หลังจากที่สิงอยู่ห้อง MBK มาหลายกระทู้ ขอเปลี่ยนบรรยากาศแบ่งกายหยาบมาประจำการห้องชายคากันบ้าง เพราะเรามีจอภาพจากค่ายสีแดงแบรนด์หัวเว่ยมารีวิวให้ชมกัน รับรองว่าเด็ดเจ็ดย่านน้ำ!

ปกติเรามักจะได้ยินสมาร์ตทีวี แอนดรอยด์ทีวีกันจนชิน แต่วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับคำว่า Beyond TV จอที่เป็นมากกว่าจอไว้สำหรับชมคอนเทนต์ เพราะทำได้หลายอย่างมาก แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เอาเป็นว่าไม่พิมพ์ (ตรงนี้) เยอะ ขอเชิญสกอลล์เมาส์อ่านรีวิวกันได้เลย


เปิดตัววววววว HUAWEI Vision S หน้าตาภายนอก ดีไซน์ก็เหมือนจอทั่วไปนี่แหละ ไม่เหมือนเตาอบแน่นอน 🧐 (แป้กซะ) แต่มีจุดที่กระแทกตา ไม่เหมือนใคร คือ ด้านบนมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่หน้าตาเหมือน กล้องถ่ายรูป! ใช่แล้ว นอกจากการเกิดมาเป็นหน้าจอเพื่อรับชมคอนเทนต์เต็มตาแล้ว HUAWEI Vision S ยังเป็นจอภาพที่ถ่ายรูปได้ ไม่พอ โหลดแอปฯ, ชมคอนเทนต์ผ่านกล่อง Set-top Box,โทรเข้า-ออก, เล่นเกมผ่านรีโมตคอนโทรล, แปลงร่างเป็นจอมอนิเตอร์ไว้ทำงานก็ได้อีกด้วย


ออกสตาร์ตกันด้วยการพาชมหน้าตา HUAWEI Vision S แล้ว (เพื่อนๆ สามารถบุกไปชมตัวจริงเสียงจริงได้ที่ HUAWEI Experience Store สาขาพารากอน) ว่ากันเรื่องสเปก HUAWEI Vision S เป็นจอ LCD ขนาดหน้าจอ 65 นิ้ว ความละเอียด 4K อัตราส่วนภาพ 16:9 เพรียวบาง ไร้ขอบ รองรับอัตรารีเฟรชเรตที่ 120Hz ทำให้ชมคอนเทนต์ได้ลื่นไหล สีสันของภาพคมชัด ได้รับการรับรองเรื่องลดสีแสงสีฟ้าโดย TÜV Rheinland Certified ด้วย ตัวกรอบและฐานทำจากโลหะสเตนเลส

ในส่วนสเปกภายใน HUAWEI Vision S รันด้วยระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ที่เชื่อมโยงดีไวซ์ของหัวเว่ยให้ทำงานด้วยกันได้แบบไร้รอยต่อ Seamless AI Life ซึ่งเดี๋ยวเราจะรีวิวการใช้งานให้ชมด้วยนะ ขณะที่ RAM ให้มา 3GB สลับเปิดแอปไปมา สบายๆ และให้ ROM มาสูงถึง 32GB ไว้ใช้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหรือติดตั้งคลิปเเละไฟล์ได้เพียบ

ไมโครโฟนจัดเต็มมาให้ถึง 6 ตัว ตำแหน่งด้านหน้าใต้โลโก้ ส่วนลำโพงมีทั้งหมด 4 ตัวจะอยู่ที่แผงด้านหลังเครื่อง เป็นแบบความถี่เต็ม 10 W สองตัว และทวีตเตอร์ 10 W สองตัว รองรับการใช้งานทั้ง Vocie และ VDO Call ระบบเสียงเป็น HUAWEI Sound ตัวเดียวกับที่อยู่ในแล็ปท็อป

พอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมดจะอยู่ด้านหลังขวา ได้แก่ HDMI 2.0 3 ช่อง  / AV-In 1 ช่อง / USB 3.0 1 ช่อง และ SPDIF (coaxial) 1 ช่อง


หน้าที่ของจอ คือเกิดมาเพื่อเป็นอุปกรณ์ไว้สำหรับดูหนัง ดูละคร คอนเทนต์สื่อและเสียง ดังนั้นเรื่องของสีสันหน้าจอ การแสดงผล ย่อมต้องเป็นเหตุผลแรกหลักที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนหัวเว่ยหรือเคยสัมผัส ไม่ว่าจะสมาร์ตโฟน แล็ปท็อป แท็บเล็ตที่ใช้หน้าจอแบบ HUAWEI FullView Display แล้วชอบ มั่นใจว่าก็น่าจะชอบโทนสีของ HUAWEI Vision S ที่จัดแต่ไม่จ้าน เพราะเป็นหน้าจอแบบ HUAWEI FullView Display เช่นเดียวกัน มีความ สด คม ชัด อัตราส่วนหน้าจอ HUAWEI Vision S อยู่ที่ 94% รองรับการแสดงผลที่ความละเอียด 4K เเละรองรับช่วงสี DCI-P3 ที่สูงถึง 92%

นอกจากโทนสีที่ดีมาก HUAWEI Vision S รองรับอัตรารีเฟรชเรต 120Hz ดูคอนเทนต์วีดีโอลื่นไหลตลอดทั้งเรื่องแน่นอน จะเอามาเล่นก็แจ่ม


เสียงน่าจะเป็นอีกเรื่อง ที่คะแนนตีคู่ไม่แพ้หน้าจอ ระบบเสียงที่ให้มาใน HUAWEI Vision S เป็น HUAWEI Sound ถึงเราจะทดสอบการฟังแค่ช่วงสั้นๆ ในสภาพแวดล้อมศูนย์การค้าที่กำลังมีงานอีเวนต์พอดี แต่ประสาทสัมผัสหูก็รู้สึกได้ถึงความมีมิติในแต่ละฉาก ไม่แบน มีความเซอร์ราวด์รอบทิศ เหมือนเวลาที่เราไปดูหนังในโรงภาพยนตร์  แต่ทั้งนี้ในเรื่องเสียงเราอาจจะเคลมได้ไม่มาก ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แนะนำว่าไปทดลองด้วยตัวเองดีที่สุด 😀


เรื่องการรับชมคอนเทนต์จากแอปสตรีมมิง จะต้องใช้งานร่วมกับกล่อง Set-top Box ซึ่งก็รองรับกล่องจากทุกค่าย บ้านใครมีกล่องอยู่แล้ว เสียบปลั๊ก ตั้งค่าก็ใช้งานได้เลย



เป็นอันว่าเสียงและภาพให้อรรถรสเต็มเหนี่ยว ถ้าใครกำลังตามหาจอใหม่ที่คมชัดระดับ 4K ระบบเสียงกระหึ่มหู ล้อหมุนไปถอย HUAWEI Vision S มาได้เลยละตอนนี้ แต่ความที่เป็นโปรดักส์จากหัวเว่ยทั้งที ดีกรีต้องไม่ธรรมดา ตามมามาดูกันต่อว่า HUAWEI Vision S ทำอะไรได้บ้าง

เราขอย้อนกลับมาที่เรื่องของ กล้องถ่ายรูป อุปกรณ์ที่ทำให้ HUAWEI Vision S เป็นจอภาพหน้าตาดีที่ถ่ายรูปได้ ซึ่งกล้องนี่ไม่ต้องซื้อเพิ่ม มาครบชุดในกล่อง

กล้อง Magnetic Camera ความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอคอลและภาพนิ่งขนาด 1920×1080 พิกเซล



ตัวกล้องปรับได้ที่ 180 องศา ก้มกับเงย หันซ้ายหันขวาไม่ได้


ฐานจะเป็นแม่เหล็ก เวลาใช้ก็เอามาแปะ ไม่ใช้ก็ถอดออกได้


ถ้าจะถ่ายรูปสนุกๆ เข้าไปที่เมนูกล้องใน HUAWEI Vision S หลังจากนั้นหน้าจอ ก็มีจะกรอบ มีเฟรมให้เลือก เหมือนถ่ายตู้สติกเกอร์สมัยก่อน ภาพที่ถ่ายก็จะถูกเซฟไว้ที่เมนู Gallery ใน HUAWEI Vision S ถ้าอยากจะแชร์ต่อ-ส่งต่อไปที่สมาร์ตโฟนหัวเว่ยก็ได้ แต่ต้องเป็นเครื่องที่รันด้วย EMUI10.0 เป็นต้นไป


มาดูหน้าตาเมนูต่างๆ ใน HUAWEI Vision S กัน ถ้าไม่ได้ใช้งานร่วมกับกล่อง Set-top Box หลังจากตั้งค่าต่างๆ เชื่อมต่อ Wi-Fi (ได้ทั้ง  2.4 GHz/5 GHz) แล้ว เราก็จะเจอ UX ที่จัดเรียงเหมือนแมกาซีน เมนูดังนี้

อุปกรณ์ Output, วีดีโอ, เพลง, ฟีเจอร์ MeeTime, AppGallery, Gallery, หน้ารวมแอปฯ ทั้งหมดที่ติดตั้ง


การใช้งาน เราสามารถควบคุมผ่านรีโมต หรือแปลงร่างสมาร์ตโฟนให้เป็น Mirror Control ได้ ด้วยแอป HUAWEI Vision นอกจากเป็นรีโมตเสมือนแล้ว แอปฯ นี้ยังทำงานได้อีกหลายอย่าง


มองรีโมตแล้วแอบขำเบาๆ หน้าตาคล้ายหมึกที่กำลังทำปากกลมๆ ปุ่มมาแบบมินิมอล  สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Bluetooth ได้ มีระบบ AI Voice, มีโหมด AI Speaker เป็นโหมดที่ถึงจอจะถูกปิดลง แต่ยังสามารถทำหน้าที่เป็นลำโพงได้ ด้านล่างมีสัญลักษณ์ HUAWEI Share ไว้สำหรับการส่งภาพถ่าย วีดีโอ เพลง แอปต่างๆ ระหว่าง HUAWEI Vision S กับสมาร์ตโฟน


ลืมไปเลยว่า (เคย) รีโมตหาย ใช้สมาร์ตโฟนเป็นรีโมตคอนโทรลก็ได้ง่ายจัง



มาถึงเรื่องการใช้งานโทรศัพท์ หรือ VDO Call กันบ้าง ฟีเจอร์นี้จะใช้สำหรับโทรหาอุปกรณ์ที่รองรับ MeeTime ด้วยกัน ผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Vision (รองรับการใช้งานผ่านระบบ EMUI 10.0 เเละ Andoird 8.0 ขึ้นไป) ใช้งานได้สองอย่างคือ MeeTime Video Call โทรหาปลายทางจาก HUAWEI Vision S และฟีเจอร์ MeeTimeVideo Call Transfer โอนสายการโทรจากสมาร์ตโฟน ไปยัง  HUAWEI Vision S โดยที่ข้อจำกัดก็คือ อุปกรณ์ทั้งสองจะต้องเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกันและสมาร์ตโฟนที่รองรับระบบปฏิบัติการ EMUI 10.0 เป็นต้นไป

นอกจาก MeeTime แล้ว รองรับการใช้งานแอป Zoom ด้วย




ขอพักเรื่องงาน 2 นาที เพื่อคั่นด้วยความเด็ดของ HUAWEI Vision S กับความสามารถเรื่องการเล่นเกม โดยเราสามารถเปลี่ยนสมาร์ตโฟนให้กลายเป็นแท่งหรรษา หรือจอยควบคุมเกมได้แบบไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม จะโหลดแอปฯ เกมลงเครื่องก็ได้ หรือจะส่งเกมที่ปกติเล่นผ่านสมาร์ตโฟนไปเล่นบน HUAWEI Vision S ก็ได้ ตัวอย่างเช่นเกม Free Fire จากที่ต้องเล่นบนหน้าจอ 5-6 นิ้ว พอใช้ฟีเจอร์นี้ ความสะใจมาแน่นอน เพราะเล่นกันบนจอ 65 นิ้วไปเลย ตามองจอ HUAWEI Vision S แล้วใช้สมาร์ตโฟนเป็นตัวควบคุมอย่างเดียว




วกกลับมาที่เรื่องการงานต่อ ขอพูดถึงฟีเจอร์การทำงานแบบไร้รอยต่อ Seamless AI Life ที่ผ่านมาเราจะเห็นการทำงานข้ามดีไวซ์ระหว่าง แท็บเล็ต-สมาร์ตโฟน-แล็ปท็อป แต่ตอนนี้ เรามาถึงจุดที่สามารถทำงานไร้รอยต่อกับจอภาพขนาดเบิ้มได้แล้วจ้า

ผ่านฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า OneHop Projection  ขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นและแสดงหน้าจอแบบเดียวกันที่แสดง บนมือถือ ผ่าน HUAWEI Share เจ้าเก่าเจ้าเดิม ส่งรูป ส่งเอกสารหา ทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องมีสายยุ่งยาก เช่น วีดีโอคอลกันอยู่แต่พูดถึงภาพสถานที่ประกอบขึ้นมา เราก็สามารถแชร์รูปนั้นได้ทันที




นอกจากนี้ เราสามารถต่อเมาส์และคียบอร์ดบลูทูธ เพื่อแปลงร่างให้ HUAWEI Vision S เป็นมอนิเตอร์ขนาดหน้าจอ 65 นิ้วได้ด้วยอีก ยิ่งกว่าออลอินวันอีก จอเดียวใช้ได้ทั้งบ้าน เรียน เล่น ทำงาน เข้ากับสถานการณ์

ชื่อสินค้า:   HUAWEI Vision S
คะแนน:     

BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่